สำหรับออแพร์ ตัวช่วยที่จะเลือก Host family อีกอย่างก็คือ Area หรือพื้นที่ ที่เราจะไปอยู่ด้วย ออแพร์หลายคนตื่นเต้น อยากไปเที่ยว ไปแฮงค์เอาท์ แต่บางคนก็ชอบอยู่กับธรรมชาติ การเลือกสถานที่ก็มีความสำคัญ เป็นปัจจัยที่จะเลือกโฮสต์ด้วย (ไม่แค่ออแพร์ นักเรียนที่ไปนอกก็ควรรู้)
เปรียบเทียบให้ดูระหว่างเมืองกับนอกเมือง
City - การคมนาคมสะดวกสบาย
ถ้าอยู่ใน Downtown
เช่นนิวยอร์ค วอชิงตัน บอสตัน ชิคาโก เมืองใหญ่ ไม่ต้องพูดถึง Subway,
Amtrak แท็กซี่
บัส เมล์ วิ่งกันตลอด
อย่างเมืองหลวงออสโลนอร์เวย์
ซื้อตั๋วเดียวไปได้ทั้งโซนที่เค้ากำหนด
กว้างมาก ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
ตั๋วเดียวเที่ยวทั่ว
ทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟใหญ่
บัส หรือแม้กระทั่งเรือข้ามฟาก
(ตั๋วมีระยะเวลา
ขึ้นอยู่กับประเภทตั๋ว)
แต่ถ้าออกจากโซนเมืองหรือไกลกว่านั้น
ขึ้นลงแต่ละอย่างจ่ายทุกครั้ง
Country - รถ เรือ
มาเป็นเวลา ถ้าเรากลับดึกดื่นตกรถตกรา
รอทีเหงือกแห้ง ยิ่งถ้าดึกขอโทษค่ะ
รถหมด แท็กซี่เท่านั้น แท็กซี่นอกเมือง ไม่ใช่อยู่ๆ เดินไปโบกนะ ที่เมกาต้องโทรจอง ถ้ารู้ว่ากลับไม่ทัน แต่นอร์เวย์ไม่ต้อง แค่สบตาพี่แท็กซี่ก้อมาแล้ว พี่เค้ารู้งาน สตาร์ท 500 บาท จะไกลจะใกล้ 50 เมตรก็ 500 บาท ที่นอร์เวย์นะ นั่งบ่อย
ส่วนแท็กซี่ที่่สนามบิน ถ้าเราเดินออกมาสักหน่อย จะมีคิวแท็กซี่จอดเต็มตามคิวอยู่ เข้าไปเรียกได้ ไปประเทศไหนก็เห็นแท็กซี่เรียกได้เลย มีแต่ประเทศเรานี่แหละลองไปทะเลอทะล่าเรียกแท็กซี่คันที่หลงเข้ามาในสนามบินสิ แท็กซี่คันนั้นโดนเละเลย
*Taxi เมกาเหมือนบ้านเราที่ไหน ไปกี่คนก็ยัดได้หมด ที่นี่นั่งตามเบาะ รวมคนขับนั่งได้แค่ 4 คน เกินนั้นต้องเรียกแท็กซี่คันใหญ่ มานั่งยัดเยียดเบียดเสียดขี่กันบนตักเหมือนบ้านเราไม่ได้
** ต้องจ่าย Tip ด้วย ไม่ใช่พอถึงที่สะบัดตูดไป พี่แกจะตามไม่ลดละเลย ธรรมเนียมเมกาต้องจ่ายทิป อยู่ที่ประมาณ 10% ดูดีหน่อยจ่ายไป 15% อย่าว่าแต่แท็กซี่เลย สากกะเบือเรือรบ อะไรที่เกี่ยวกับบริการควรให้ทิปเค้า เช่นตัดผม ไปพักค้างที่โรงแรม ไปสั่งอาหารกินที่ร้าน ก็ต้องทิป จะเป็นร้านจีนร้านเวียดนามก็ควรให้ทิป
City - ไม่เหงามีผู้คนพลุกพล่าน ไปไหนก็คน มีร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้ง สถานบันเทิง แหล่งเอ็นเตอร์เทนต่างๆ เพื่อนๆอยู่ในเมืองกันเยอะ แต่สิ่งแวดล้อมเป็นพิษเยอะกว่า ผู้คนเร่งรีบขวักไขว่ เฉยเมยมากกว่า
Country - หว่าเว้ เหงา สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย แต่ปรับตัวสักพักก็ชิน จะรู้สึกว่า โอ้โห บ้านนอกนี่ยอดเยี่ยมนะ ทั้งสงบ ธรรมชาติก็สวย มีเวลาอ่านหนังสือ ทำโน่นนี่นั่น พักผ่อนได้เยอะเลย ผู้คน สิ่งแวดล้อมเป็นมิตร ผู้คนจิตใจดีกัน เพราะเค้าอยู่กับธรรมชาติมากกว่า
City - อยู่ในเมือง ถึงบางที่ตั๋วเดียวเที่ยวได้โลด อย่าลืมว่าเวลาเราไปในเมือง อดที่จะไม่เที่ยว ช็อปปิ้งกระหน่ำซัมเมอร์ได้หรือเปล่า ต่อให้ค่าเดินทางน้อย แต่ค่ากิน ค่าเที่ยว สิ่งล่อตาล่อใจเยอะ เงินจะเหลือมั้ยเนี่ย...
Country - เก็บตังค์ได้เยอะกว่า เพราะเราไม่ได้ไปช็อปตลอด อยู่บ้านบ้างอะไรบ้าง มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น เก็บตังค์ไว้เที่ยวทีเดียว เวลาเราได้วันหยุดเยอะๆ ไปเลยค่ะ เอางบนี้ไปเที่ยวเลย
City - มีแสงสีบันเทิง จัดงานบ่อย สำหรับคนชอบเที่ยว อันนี้ดีมาก แต่เหนื่อยหน่อย ต้องตื่นเช้ามาทำงาน ยิ่งเป็นออแพร์ต้องเก็บหอมออมแรงกับเด็กอีก
Country - อุ๊ย อย่าว่าคันทรีไม่มีนะคะ แสงสีเค้าก็จัดตลอดเหมือนกัน แต่เราต้องอัพเดตข้อมูลข่าวสาร อย่าลืมไปว่าผู้คนก็ชอบเที่ยว เค้าต้องมีกิจกรรมอะไรบ้างแหล่ะ ตามรัฐ ตามเมืองที่เราอยู่ เราก็ไปแจมประปรายได้
City - ส่วนใหญ่เดินทางโดยขนส่งต่างๆ ไม่ค่อยได้ออกกะลังกายขี่จักรยาน บางที่อาจขี่ แต่คนจอแจเหลือเกิน อากาศก็แย่งกันสูด
Country - ได้ขี่จักรยาน สูดอากาศเต็มปอด ไม่ต้องห่วง มีเลนจักรยานให้ สูดเข้าไปอากาศต่างประเทศ โอโซนเยอะกว่า
จะอยู่ในเมืองหรือจะอยู่นอกเมืองก็ต้องวางแผนการเดินทางทั้งนั้น อเมริกาเดินทางสะดวกก็จริงแต่ว่า ต้องตรงเวลา กางแผนที่ไว้เลย แผนที่รถจะมากี่โมง จุดนี้รถมาถึงนี้ กี่โมงจะมาถึงเรา คู่มือรถ รา เรือ เมล์หาได้ตามป้ายรถเมล์ หรือ Tourist Information ไปหยิบเอามาดูเก็บไว้ ตกรถนี่ต้องรถใหม่อีก เค้าไม่มานั่งรอรถกันเป็นชั่วโมง เมื่อไหร่รถจะมาว้าา.... ก่อนรถมา 5-10 นาที เค้าจะมานั่งรอกัน การคมนาคมประเทศที่พัฒนาแล้วสะดวกสบาย รู้เวลาล่วงหน้าได้
ที่เมกามีตั๋วเรียกว่า off-peak เสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าชั่วโมงเร่งด่วน พี่มีประสบการณ์นั่งรถไฟใหญ่ Amtrak นั่งจาก New York ไป Virginia Beach ไม่ได้จองล่วงหน้า เสียค่าเดินทางเจ็ดพันบาทเกือบแปดพัน แต่ถ้าพรุ่งนี้เหลือแค่สี่พันบาท ก้อไม่คิดจะหาโรงแรมนอนนะ จะไปให้ได้ รีบจัด ก็ต้องเสียตามนั้น นี่คือตั๋วในชั่วโมงเร่งด่วนน....วางแผนการเดินทางดีที่สุด
ถ้าใครมี Student Card >>> International Student Identity Card - ISIC
เอาไปลดค่าโดยสารได้ เด็ก Work And Travel บางบริษัทจะทำบัตรนี้ให้ ถ้าเราเป็นคนเดินทางบ่อย ซื้อบัตรโดยสารรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปีไปเลยจะถูกมากกว่ารายวัน
นอกเมืองที่ไม่ใช่ City เค้าก็จะมี Downtown ในตัวเมืองทุกเมืองแหละ เพียงแต่ไม่เป็นแบบ City เท่านั้น เที่ยวซื้อของได้ตลอด มีห้าง มีแหล่งบันเทิงเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงตรงนี้ ถ้าไม่ได้ไปอยู่ในแถบภูเขาซะก่อน
การเลือก Area ก็เป็นโอกาสที่จะเปิดโลก เปิดประสบการณ์ของแต่ละคนด้วย แต่ไม่ว่าอย่างงัย จะบ้านนอกแค่ไหน ต่างก็มีความสวยงามในมุมนั้นๆ หาโอกาสเรียนรู้ เที่ยว ทำความรู้จักในมุมต่างๆ ให้มากที่สุดด....ถึงเรียกว่าประสบการณ์
คำศัพท์
Amtrak - รถไฟใหญ่ รถไฟที่วิ่งทั่วไปเหมือนรถไฟที่อยู่ในหัวลำโพงเมืองไทยนั่นแหละ ถ้าเรียกรถไฟเฉยๆ คนอาจเข้าใจได้ว่าเป็น รถไฟใต้ดิน
railway - ไปเจอคำนี้รู้เรยว่าเกี่ยวกับรถไฟแน่ๆ
Subway - รถไฟใต้ดิน จะเรียก Metro ก็ได้ แต่ป้ายเขียนให้เห็นๆ เลยว่า Subway (รถไฟใต้ดิน ไม่ใช่ร้านอาหาร)
Greyhound - เป็นศัพท์ที่เรียกรถบัส ถ้าเราพูดคำนี้คนเข้าใจมากกว่าคำว่าบัส ถ้าเราเดินทางไปต่างเมืองโดยรถบัส ต้องใช้คำนี้ เกรย์ฮาวนด์ เป็นบริษัทรถที่มีขนาดใหญ่ ให้บริการเกือบทุกรัฐในอเมริกา ป๊อบปูลาร์มาก (เป็นชื่อบริษัทรถบัสนะ ไม่ได้แต่แปลว่าบัส)
Intercity Bus - บัสระหว่างเมือง จะไปกับบริษัทไหนไม่มีปัญหา ใช้เรียกรถบัสที่เราจะไปยังต่างเมือง
นอกจากนี้ยังมีศัพท์แท็กซี่อีก เมกาเค้าเรียกแท็กซี่ว่าแท็กซี่แหละ แต่อีกคำคือ "cab" ก็คือ Taxi บางทีเค้าไม่พูดอย่างเรา เค้าพูดแค่ แค้ป - cab เท่านั้น
เวลาเราโบกแท็กซี่ ไม่ใช่เอามือเข้าไปกวักๆ เรียก หรือโบกเหมือนที่เราโบกในไทย แต่ให้ใช้หัวแม่มือชี้ตั้งขึ้น เหมือนกับชมว่ายอดเยี่ยม เวลาเรียกรถ เรียกรา โบกรถฟรี ทำสัญลักษณ์มือแบบนี้ เรียกว่า hailing
--------------------------------------------------------------------------------------------
ศัพท์เมืองกับนอกเมือง
บ้านนอก นอกเมือง ชนบท ชานเมือง เราจะเจอคำเหล่านี้ - countryside Country, Rural, Suburb
ในเมือง ตัวเมือง เมืองใหญ่ - Urban, City, Downtown,
จบเรื่องเมืองกับชนบท หวังว่าคงความรู้ให้น้องๆ ได้เลือกนะคะ
*** ขอบคุณภาพประกอบจากน้องๆ และเพื่อนๆ ที่เคยร่วมชะตากรรมเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น